หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

แก้วมหาสักรชาติรัศมีใน

มหาสักรชาติ
"แก้วลูกใด มีอันขาวก็ดี แดงก็ดี หรือเขียวรัศมีใน แก้วลูกนั้นชื่อว่า มหาสักรชาติ ไม่ควรคนโยธาสามาญทรง ควรแก่ท้าวพระยาผู้ใหญ่ ให้สระสรงน้ำส้มป่อยและน้ำส้มมะนาว ชำระด้วยฝ้ายขาว 7 เส้น ข้าวเปลือก ข้าวสาร เบี้ยเงินคำ บูชาด้วยฝ้ายมนต์"

"รัศมีใน" หมายถึงประกายอันระยิบระยับปรากฏอยู่ในแก้ว ซึ่งไม่อาจจะพบในแก้วอัญมณีชนิดอื่นใดได้ นอกจากแก้วผลิกกะชาติ เช่นที่บ่อแก้วโป่งข่ามนี้
อันขาวหรือใส คือวรรณะชาติดั้งเดิมของโป่งข่าม อันแดง อันเขียว คือปวกแดง ปวกเขียว ย่อมมีอยู่ในแก้วโป่งข่ามได้ รัศมีในย่อมเกิดขึ้นได้สามสถาน โดยลำดับคุณค่าแก้วรัศมีในดังนี้
1.   รัศมีในโดยประกายแก้วเข้าแก้วหมู่ หรือเง่าแก้วอันงดงาม รัศมีอันมีประกายรุ้ง 7 สี ทั้งประกายอันระยิบระยับ ทอแสงอยู่ในแก้ว จัดเป็นสิ่งมีค่าหาได้ยาก

"รัศมีใน" ในแก้วโป่งข่ามประเภทนี้ นับเป็นรัศมีในอันมีค่าสูงสุดของบ่อแก้วโป่งข่าม

2.   รัศมีในอันเกิดจากไรแก้ว อันประดิษฐ์อยู่ตามกาบกิ่ง และใบปวกต่าง เป็นสิ่งที่มีค่าและหาได้ยากไม่น้อย
โดยเฉพาะไรแก้วที่ประดับดังกล่าว เสมือนหนึ่งน้ำค้าง หรือน้ำทิพย์ที่ชะโลมใบมณีพฤกษ์ สายลมเฉื่อยแผ่ว แล้วความเย็นถึงจุดน้ำแข็งก็เข้าแทนที่โดยฉับพลัน เหมือนน้ำค้างปลายกิ่งกัลปพฤกษ์ กลายเป็นน้ำแข็งในท่าสบัดนิ่งอยู่


รัศมีในแบบนี้ ไม่สามารถที่จะพบได้ในก้อนเพชร ก้อนพลอย นอกจากในแก้วโป่งข่ามเท่านั้น

3.   รัศมีในโดยประกายแก้ว ที่ปรากฏลวดลายขึ้นโดยธรรมชาติ
ลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ "รุ้งเจ็ดสี" ด้วยตำแหน่งลวดลายอันสลักเสลา

ขึ้นโดยธรรมชาติ เป็นความงามเหนือน้ำมือมนุษย์อันธรรมชาติสร้างให้ เป็นสิ่งที่คนไม่อาจทำได้



คุณค่าความสวยงามและความหมาย ย่อมขึ้นอยู่กับปรากฏการณ์นั้นได้สลักไว้ประณีตเพียงใด

ที่มา:   คู่มือแก้วโป่งข่าม ฉบับวชิรเป๊กสูตร โดย ศักดิ์ รัตนชัย (.. 2513)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น